l o m b o g
ลมบกพัดออกทะเล

บันทึกหมายเลข 105 June 24, 2011

วันที่ 5 เมษายน 2554 เวลาประมาณ 18.00 น.  ถึง 19.45 น. บนทางหลวงหมายเลข 105 ช่วงอุทยานแห่งชาติแม่เมยถึงอำเภอสบเมย ขอบันทึกไว้ว่า เป็นการขับรถที่ระทึกใจที่สุด ตั้งแต่ขับรถเดินทางมา 7 ปี

…………………

ทางหลวงหมายเลข 105 คือถนนเลียบลำน้ำเมย ตามตะเข็บชายแดนพม่า เริ่มต้นจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ผ่านอำเภอแม่ระมาด อำเภอท่าสองยาง อำเภอสบเมย และสุดปลายทางที่ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร

ถนนเส้นนี้จะไปบรรจบกับเส้นทางสุตฮิตหมายเลข 108 เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ที่คนนิยมไปพิชิตโค้งกัน

ถ้ำแม่อุสุ นั้นอยู่ในเขตอำเภอท่าสองยาง ก็อยู่ประมาณกลางๆ ของถนนเส้นนี้

ผมเริ่มจากต้นทางตัวอำเภอแม่สอดเมื่อตอนสายๆ ขับรถเรื่อยๆเรียงๆมา แวะถ่ายภาพที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงในอำเภอแม่ระมาด ผมไม่รีบร้อนเดินทางนักเพราะถ้ำแม่อุสุ เป้าหมายของผมในวันนี้ จะสวยงามที่สุดในช่วงเวลาประมาณบ่ายสองถึงบ่ายสามโมง แสงของแดดยามบ่ายจะส่องผ่านยอดไม้ ลอดเป็นลำเข้ามาภายในถ้ำ กระทบกับเกล็ดใสที่เกาะอยู่ตามหินงอก หินย้อย เกิดเป็นประกายระยิบระยับ

หลังจากนั้น ผมก็ตั้งใจจะไปค้างคืนที่ อำเภอแม่สะเรียง เพื่อเดินทางต่อไปเมืองแม่ฮ่องสอนในวันรุ่งขึ้น

ผมออกจากถ้ำแม่อุสุ ประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ  ระหว่างทางเห็นทางแยกขวาขึ้นเขาเพื่อไปอุทยานแห่งชาติแม่เมยเป็นระยะทาง 24 กิโลเมตร เมื่อประเมินแล้วคิดว่าน่าจะมีเวลาพอ และอยากได้ภาพแดดช่วงเย็นๆจากมุมสูงก็เลยเลี้ยวเข้าไป

บนม่อนกิ่วลมและม่อนพูนสุดา จุดที่ได้ชื่อว่ามีทะเลหมอกสวยมากที่สุดจุดหนึ่งของประเทศ วันนี้มีแต่ควัน เพราะเกิดไฟป่าที่พื้นที่ข้างล่างหลายจุด ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในเรื่องของฤดูกาล ผมยังคิดเข้าข้างตัวเองว่า

“เอ้อ แปลกดี คนอื่นมาดูทะเลหมอก แต่เรามาเห็นทะเลควัน”

ลงจากม่อน ย้อนกลับมาถึงทางหลวงหมายเลข 105 อีกที ก็เกือบๆ 6 โมงเย็น ยังเหลือระยะทางอีกประมาณ 120 กิโลเมตร เพื่อไปให้ถึง อำเภอแม่สะเรียงอย่างที่ตั้งใจไว้ ผมประเมินว่าใช้แสงสุดท้ายของวันแบบสลัวๆส่องทางไป แล้วน่าจะไปมืดสนิทใกล้ๆปลายทาง ไม่น่าจะมีปัญหา

..แต่ผมคิดผิด

นอกจากความคดเคี้ยว ขึ้น-ลง ของถนน ที่เตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว ผมพบว่ามีการก่อสร้างเพื่อขยายถนนเป็นช่วงยาวนับสิบกิโลเมตร ลัดเลี้ยวไปตามไหล่เขา ถนนตอนนี้เป็นสภาพดินลูกรังอัด และไม่มีขอบเขตของถนนที่ชัดเจน ข้างหนึ่งคือผาดินแดงๆ ที่เพิ่งตัดใหม่ๆ อีกข้างหนึ่งคือหุบเขาที่สลัวเกินจะประเมินว่าลึกแค่ไหน ฝุ่นถนนสีแดงตุ่นๆ คลุ้งปกคลุมตลอดเส้นทาง

ฟ้าหลังจากพระอาทิตย์ตกนั้นครึ้มเป็นสีเทาเข้ม และค่อยๆ มืดลงเรื่อยๆ

เมื่อพ้นเขตก่อสร้าง จากถนนดินแดงกลายเป็นถนนลาดยางเก่าๆ แคบๆลัดเลาะเข้าไปในป่าของอุทยานแห่งชาติแม่เงา

สภาพถนนแย่ คดเคี้ยว มืด เปลี่ยว มีดินและหิน ถล่มมาขวางถนนเป็นระยะๆ มีไหล่ทางทรุดลงไปเป็นเหวบ้างประปราย มีร่องรอยการแหกโค้งของผู้มาก่อนไว้เตือนใจ และเส้นทางนี้ก็เคยมีประวัติโจรกะเหรี่ยงดักปล้นรถนักท่องเที่ยวมาแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ควันไฟป่าที่ผมถ่ายรูปเอาสวยบนม่อนกิ่วลม ขณะนี้มันล้อมอยู่รอบๆผม เปลวไฟที่มีให้เห็นเป็นแนวอยู่ตามรายทางนั้นผมไม่กลัวหรอก เพราะรู้ว่ามันจะไม่ลามมาถึงถนน แต่ควันไฟผมห้ามไม่ให้มันบังทางไม่ได้

มันเป็นความรู้สึกที่ใจไปไวกว่ารถ

เราอยากจะผ่านช่วงนี้ไปให้ไวที่สุด แต่ทุกครั้งที่เข้าโค้งแล้วรู้สึกว่ารถแฉลบ ยากจะควบคุม เราก็ต้องยอมผ่อนความเร็วลง

ตั้งแต่ออกจากแยก อุทยานแห่งชาติแม่เมย มาจนสุดอุทยานแห่งชาติแม่เงา เป็นระยะทางเกือบร้อยกิโลเมตร มีรถยนต์วิ่งสวนผมไปทั้งสิ้น 6 คันถ้วน ผมตัดสินใจว่าไม่ไปถึงแม่สะเรียงแล้ว เดี๋ยวรอดูว่า ที่ตำบลแม่เงากับที่อำเภอสบเมย ที่ไหนมีที่พักผมจะแวะค้างตรงนั้นเลย

แม่เงา เป็นเพียงหมู่บ้านกะเหรี่ยง ผมผ่านไปและหวังว่าตัวอำเภอสบเมยน่าจะมีที่พัก

ถึงสบเมย หนึ่งทุ่มสี่สิบห้า

พ้นเขตป่ามาแล้ว แต่ควันของไฟป่ายังปกคลุมถนนสายหลักอยู่ ตรงจุดที่สว่างที่สุด มีเพียงทหารเฝ้าด่านตรวจริมทาง สองคนให้ผมได้ขอความช่วยเหลือ ผมสอบถามหาที่พักในตัวอำเภอสบเมย

“สบเมย มีเกสต์เฮ้าส์ที่เดียว มีอยู่ไม่กี่ห้อง คุณไปพักที่แม่สะเรียงเถอะครับ อีกยี่สิบห้ากิโล ถนนไม่โหดอย่างที่ผ่านมาหรอก”

ใช่ ถนนช่วงสบเมยถึงแม่สะเรียง ไม่โหดเท่าช่วงก่อนหน้านั้น แต่ถ้าเทียบกับถนนทั่วๆไปก็ยังถือว่าโหดมากอยู่ดี สิ่งที่ดีกว่าเท่าที่รู้สึกได้ก็คือ มีชุมชนอยู่ริมถนนค่อนข้างต่อเนื่องให้ได้อุ่นใจ

ถึงแม่สะเรียง ตอนสองทุ่มยี่สิบนาที

ผมแวะปั้มนำมันใหญ่ในตัวอำเภอ ถอนหายใจยาว ตั้งสติ เอาน้ำเย็นลูบหน้าเพื่อคลายความเครียด แล้วขับรถเข้าไปในเมืองเพื่อหาที่พักและอาหารมื้อเย็นควบมื้อกลางวัน นาทีนี้ไม่มีใจจะเลือกแล้ว ที่ไหนก็นอนได้ อาหารอะไรก็กินอร่อยทั้งนั้น

สำหรับนักเดินทาง Road Trip วงตัวแดงๆไว้เลยนะครับ

“ทางหลวงหมายเลข 105 หลังพระอาทิตย์ตก และขณะฝนตก ห้ามผ่านโดยเด็ดขาด”

 

  • akkarakitt says:

    เส้นนั้นโหดจริงอะไรจริง เคยนั่งรถสองแถวมาแม่สะเรียงระยะทาง ๒๐๐ กม. ปาไป ๑๐ ชั่วโมง นั่งกันก้นระบมเลย จากแม่เงามาถึงแม่สะเรียงนี่วิ่งไปมาเป็นว่าเล่นครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *