l o m b o g
ลมบกพัดออกทะเล

นิราศเลยเถิด June 26, 2011

26 มิถุนายน เป็นวันสุนทรภู่

จึงไปขุดเอากลอนนิราศที่เขียนไว้ตอนไปเที่ยว ‘เมืองเลย’ เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นมาอวด

นิราศเลยเถิด

@ อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก   แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย

ถึงปากชมใจคิดเชือดให้วางวาย   เจ็บจนตายไม่เท่าเหน็บเจ็บใจเรา

จาก ปากชม ลัดเลาะเลียบลำน้ำโขง   มีลำโพงเปิดเพลงไว้ให้คลายเหงา

เดินทางไกลฉายเดี่ยวเชียวนะเรา   ซ่อนความเศร้าซุกโศกไว้ไม่อายคน

@ ไม่เมาเหล้าหรอกแต่เรายังเมารถ   สุดสะกดห้ามจิตคิดฉงน

ขับเอง เมาเอง เอ้อ แปลกคน   โทษถนนที่โค้งคดรันทดใจ

ซ้ายเป็นผาขวาเป็นน้ำจำให้เคร่ง   ขวาคันเร่งซ้ายก็เบรคอย่าเฉไฉ

รถเลี้ยวซ้ายท้ายปัดขวาผวาไป   เผลอพลาดไซร้ไร้จริตชีวิตหมด

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจถนน   มันวกวนลึกล้ำเหลือกำหนด

แก่งคุดคู้ ที่โค้งเคี้ยวและเลี้ยวลด   ยังไม่คดเช่นดั่งน้ำคำใคร

@ ที่ เชียงคาน มีเรือนเรียงเคียงตลิ่ง   แพลอยนิ่งริมโขงผูกโยงสาย

หมอกจางจางยามเช้าสัมผัสกาย   ดาวพร่างพรายยามค่ำคืนชื่นกมล

อยากหอบเอาความขมขื่นทิ้งลงโขง   ปล่อยไหลลงไหลลับเลิกสับสน

แต่ความจริงยากนักชักอับจน   เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอย

อยู่ เชียงคาน ค้างสองคืนใจคลายวุ่น   สี่ล้อหมุนเดินทางต่ออย่ารอเฉย

ลมยังโบกน้ำยังไหลไม่พักเลย   สระเอยลงยากลำบากจัง

@ อ้าว..เมือง เลย ผ่านเลยไม่เคยถึง   เอื้อมมือดึงแผนที่มาคลี่กว้าง

ผ่านตอนไหน เอ๊ะ หรือเราหลงทาง   อยู่ข้างหลังผ่านแล้ว เลย เลยช่างมัน

เห็น ภูเรือ เป็นเรือน้อยที่ลอยล่อง   เทียวทั่วท่องทางไกลเหมือนใจฝัน

จะนั่งรถล่องเรือไม่ต่างกัน   สู่คืนวันที่หมายปองด้วยสองมือ

วังสะพุง อยู่ที่ใดใครรู้บ้าง   อยู่ข้างข้างวังสะเอวนั่นน่ะหรือ

ตรงใจกลางนั้นคงเรียกวังสะดือ   ข้างหลังคือวังสะโพกโศกหัวใจ

ตั้งตระหง่านตรงหน้า ผานกเค้า แล้วนกเรานั้นเล่าอยู่แห่งไหน

นกของฉัน นกของเธอ นกของใคร   นกเค้าไซร้มิใช่นกตัวเอง

ภูกระดึง คิดถึงเคยเดินท่อง   มีเราสองเคียงคู่ดูเหมาะเหม็ง

กระซิบคำบอกกล่าว“เค้ารักตะเอง”   ยินบทเพลงรักห่มเราหนาวก็คลาย

@ ผ่านทางโค้งถนนแคบเจ็บแปลบร้าว   ภาพเก่าเก่าย้อนคืนมิห่างหาย

อดีตแสนสวยงามบ่จางไป   ยามนี้กลับมาทำร้ายใจลำเค็ญ

ภูผาม่าน มีม่านฝนถนนฉ่ำ   โปรยหยดน้ำอำพรางทางไม่เห็น

เปิดใบพัดปัดกระจกน้ำกระเซ็น   ที่แท้เป็นน้ำตาเราเศร้าฤดี

ถึง น้ำหนาว หน้านี้พี่หนาวหนัก   คนเคยรักแนบเนามาหน่ายหนี

พี่ถนอมนวลน้องมานานปี   น้องหลบรี้พี่ระทมตรมอุรา

ถึง หล่มสัก ฉันมีรักมักติดหล่ม  รสรักขมยังคิดถึงคนึงหา

เฝ้ารอคอยรักแท้เดินทางมา  แม้รู้ว่าความหวังยังยาวไกล

@ จงทราบความตามเล่าดังกล่าวสิ้น   อย่านึกนินทาแกล้งแหนงไฉน

นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ     จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอยฯ

ลมบก // ธันวาคม 2553

*เนื้อความบางส่วนดัดแปลงจากคำกลอนของสุนทรภู่

แผนที่ประกอบนิราศ


 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *