l o m b o g
ลมบกพัดออกทะเล

เมืองใต้เท้า October 9, 2010

เมืองใต้เท้า [Mission Under Ground ] / ชัยกร หาญไฟฟ้า

แพรวสำนักพิมพ์ / 302 หน้า / ราคา 197

#########

“ไม่มีใครรับประกันได้ว่า รถไฟใต้ดินจะไม่ตกรางอีก
แล้วก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่า สาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไร
อีกทั้งไม่รู้ด้วยว่าข้างล่างลึกลงไปนั้นยังมีอะไรซ่อนอยู่
เกิดอะไรขึ้นในเมืองใต้เท้า ?”

นวนิยายเรื่อง”ใต้เท้า”เป็นหนึ่งในต้นฉบับนวนิยายที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อะวอร์ดเมื่อปี พ.ศ.2549 และเมื่อผลประกาศออกมาว่า “ใต้เท้า”ไม่สามารถคว้ารางวัลสูงสุดของงานประกวดครั้งนี้ได้ ผู้เขียนจึงเก็บต้นฉบับไว้ในความอึมครึมพักใหญ่

เมื่อได้ปล่อยให้เวลาผ่านเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์เพิ่มขึ้น ผู้เขียนจึงได้หยิบต้นฉบับนี้มาปัดฝุ่นอีกครั้ง จากที่เคยตั้งใจเพียงปรับแก้จากร่างเดิมให้สมบูรณ์ขึ้นกลายเป็นการรื้อโครงเรื่องใหม่ยกกระบิ ดังที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในคำนำว่า เป็นการถอยหลังเพื่อก้าวเดินไปข้างหน้าให้มากกว่าเดิม จากต้นฉบับ “ใต้เท้า” จึงกลายเป็น “เมืองใต้เท้า”เมื่อจัดพิมพ์เสร็จสมบูรณ์โดยแพรวสำนักพิมพ์ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2552 รวมระยะเวลาในการปรับแก้ต้นฉบับเกือบ 3 ปี

หากจำแนกหมวดหมู่ “เมืองใต้เท้า” คงอยู่ในข่ายนวนิยายไซไฟระดับบางๆ แกล้มด้วยประเด็นสังคมและการเมือง ที่ผู้เขียนหยิบเอาเกร็ดจากเหตุการณ์ปัจจุบันมาปรับแต่งให้เข้ากับเนื้อหาพร้อมสอดแทรกทัศนคติต่อประเด็นนั้นๆ ได้อย่างแนบเนียนและไหลรื่น

เรื่องราวเริ่มต้นที่อุบัติเหตุรถไฟฟ้าใต้ดินตกราง ระหว่างสถานีพระรามเก้ากับสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ และเดินเรื่องด้วยการสืบหาสาเหตุ ผ่านตัวละครหลักซึ่งมีอาชีพเป็นวิศวกรดูแลระบบความปลอดภัยของรถไฟฟ้าใต้ดิน การขมวดปมของเรื่องที่ชวนติดตาม ปล่อยให้ตัวละครค่อยๆ ค้นหาเงื่อนงำที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ ระบบวิศวกรรมยานยนต์ วิศวกรรมโครงสร้าง ระบบผังเมือง ระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขยายกรอบโยงใยออกไปไกลถึงสิ่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวเช่น ดาราศาสตร์ การเมือง กฎหมาย สื่อสาธารณะ  เมื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ได้แล้วจึงค่อยๆลดกรอบลงเพื่อคลี่ปม ทีละเปลาะ ทีละเปลาะ

ด้วยความที่อาชีพหลักอีกด้านหนึ่งของผู้เขียนคือวิศวกร จึงไม่แปลกใจที่จะพบศัพท์เทคนิคด้านวิศวกรรมแทรกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง  ซึ่งก็ไม่ได้ยากหรือสร้างความสับสนให้กับผู้อ่าน แต่กลับเป็นการวาดภาพของเหตุการณ์ให้ชัดเจน และยังเพิ่มความน่าเชื่อถือรองรับเนื้อหาส่วนของจินตนาการที่เขาสร้างขึ้นมา

ชัยกร หาญไฟฟ้า ใช้เวลาแปดโมงเช้าถึงหกโมงเย็นประกอบอาชีพเป็นวิศวกรบริษัทเอกชนที่ผ่านการดูแลโครงการขนาดใหญ่อย่าง สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ รวมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งถูกใช้เป็นฉากของนวนิยายเรื่องนี้  เขาใช้เวลาส่วนที่เหลือสร้างงานเขียนออกมาอย่างสม่ำเสมอนับสิบเล่ม ทั้งเรื่องสั้น  นวนิยาย และที่เป็นที่รู้จักกว้างขวางที่สุดก็คือวรรณกรรมเยาวชน ที่คว้ารางวัลงานประกวดต่างๆอยู่เป็นเนืองๆ

บทสัมภาษณ์ ชัยกร หาญไฟฟ้า :: http://www.praphansarn.com/new/c_talk/detail.asp?ID=195

No Comments on เมืองใต้เท้า

เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ August 15, 2010

เหตุผลของการมีชีวิตอยู่

เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ; วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์

เรื่องที่ควรรู้ ที่เราคิดว่ารู้ แต่เราไม่เคยรู้

พิมพ์ครั้งที่ 1 / Abook / 304 หน้า / 195บาท

#############

หนังสือรวมบทความที่เคยลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนและกรุงเทพธุรกิจ โดยบรรณาธิการนิตรสารสารคดี

จากปกหลัง ::

‘วันชัยจะคอยจับชีพจรสังคม ว่าคนกำลังอยากรู้เรื่องอะไร หรือพร้อมจะรับรู้เรื่องอะไร

เรื่องที่เขาเขียนจึงสัมพันธ์กับคนอ่าน หรือดึงเอาประสบการณ์ร่วมของผู้อ่านมาเชื่อมโยงกับประเด็นที่นำเสนอ

ถ้าเป็นเรื่องที่คนอ่านมีความรู้มาก่อน อ่านแล้วจะรู้สึกว่าเขาพูดแทนใจตัว

ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่รู้มาก่อน อ่านแล้วจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ดีใจจังที่ได้รู้

และเขาไม่เคยลืมจะเด็ดพริกแปะหน้าชามตอนจบ ด้วยประโยคเด็ดตอนสุดท้ายเป็นเอกลักษณ์’

:: สรณรัชฏ์ กาญจนะวณิชย์


อ่านบางตอนของบทความในเล่มได้ที่

openonline

No Comments on เหตุผลของการมีชีวิตอยู่

สองเงาในเกาหลี

สองเงาในเกาหลี

สองเงาในเกาหลี ; ทรงกลด บางยี่ขัน

บันทึกการเดินทางของสองชายหญิงที่ไม่รู้จักกัน แต่อยากเดินทางร่วมกันในเกาหลี

พิมพ์ครั้งที่4 / Abook / 352 หน้า / 180บาท

#############

ภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นจากหนังสือขายดี น้อยครั้งนักที่จะได้รับคำชื่นชมเท่าเทียมหนังสือ (เว้นเสียแต่ว่าเป็นผู้ชมที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือ)

นั่นก็เป็นเพราะในขณะไล่เรียงสายตาไปตามการร้อยเรียงของตัวอักษร ผู้อ่านก็ได้เสริมแต่งภาพของตัวละคร ฉากและบรรยากาศ แล้วทำการปะติดปะต่ อเป็นเรื่องราวในจินตการตามแบบฉบับของตัวเองไปพร้อมๆกันด้วย ผู้อ่านหนังสือจึงเสมือนได้ทำหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ในแบบที่ตัวเองต้องการไปแล้ว

นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องอ่าน ‘สองเงาในเกาหลี’ ให้เสร็จสิ้น ก่อนที่ภาพยนตร์ ‘กวน มึน โฮ’ จะเข้าโรงฉายในสัปดาห์หน้า

ผู้สร้างภาพยนตร์เองก็คงทราบถึงข้อจำกัดนี้ จึงออกตัวล่วงหน้าว่า ‘กวน มึน โฮ’ ไม่ใช่ ‘สองเงาในเกาหลี’ แต่เป็นการได้รับแรงบันดาลใจมาเท่านั้น

ผมพบ ‘สองเงาในเกาหลี’ อยู่บนแผงหนังสือตั้งแต่การพิมพ์ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน แต่เป็นการพบแล้วมองผ่านไปเพราะเข้าใจเอาเองว่าเป็นนิยายรักเกาหลีตามสมัยนิยม ซึ่งผมไม่ค่อยนิยมกับแนวนี้สักเท่าไหร่ จนกระทั่งได้รู้จักงานเขียนอื่นๆของ ‘ทรงกลด บางยี่ขัน’ สองเงาในเกาหลีจึงกลับมาอยู่ในสายตาผมอีกครั้ง ด้วยการหยิบมาพลิกดูบ้าง แต่ผมก็ผลัดผ่อนที่จะซื้อติดมือกลับมาอ่านอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเรื่อยมา จนกระทั่งการพิมพ์ครั้งที่ 4

วันนี้ ผมอ่านจบแล้ว

‘สองเงาในเกาหลี’ เป็นบันทึกการเดินทางลุยเดี่ยวสู่ประเทศเกาหลีใต้เป็นเวลา 12 วันของผู้เขียน แต่โชคชะตากลับนำพาให้ต้องเดินทางเป็นคู่ เรื่องราวจึงขึ้นต้นคล้ายจะเป็นหนังสือบันทึกประสบการณ์ท่องเที่ยวต่างแดน แต่เมื่ออ่านจนจบกลับกระเดียดไปทางนิยายรักโรแมนติกเสียอย่างนั้น

เนื้อหาถูกแบ่งเป็นตอนสั้นๆ เล่าถึงบรรยากาศ-สถานที่ต่างวัฒนธรรม สอดแทรกด้วยทรรศนะของผู้เขียนต่อสิ่งที่ได้พบเห็น รวมไปถึงทรรศนะต่อผู้ร่วมเดินทาง ทั้งแบบที่ได้เปิดเผยออกไปและสิ่งที่เก็บงำอยู่ในใจ ลีลาลูกเล่นทางภาษาและวิธีการเล่าเรื่องของทรงกลด ที่ต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งในยุทธจักรน้ำหมึก ช่วยขัดเกลาให้ภาพรวมของเรื่องดูกลมกลืน และกลมกล่อม ต่อเนื่องไปตั้งแต่ต้นจนจบ

ยังไม่เคยมีหนังสือขนาดความหนาเกิน 300 หน้า ที่ผมสามารถอ่านต่อเนื่องรวดเดียวจบได้

บันทึกไว้ว่า ‘สองเงาในเกาหลี’ คือเล่มแรก

ลมบก /100811

หากไม่ถือสาว่าจะทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน คลิ๊กไปชมตัวอย่างภาพยนตร์ ‘กวน มึน โฮ’ ได้ที่

‘กวน มึน โฮ’

1 Comment on สองเงาในเกาหลี